คืนวันศุกร์ได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวปอ ว่าต้องไปยืนยันการชี้เขตแดนไร่ในเช้าวันเสาร์ ซึ่งการไปชี้เขตแดนของไร่ ปอต้องไปทำด้วยตัวเอง ทางเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์มาทำเอกสาร ตอนไปฉันกะปอก็ไม่รู้หรอกว่า อะไรยังงัย พอไปถึงก็รู้ว่า .. ผู้ที่ทำกินต้องไปชี้จุดเพื่อวางหลักกำหนดเขต ก็ไปกันสองคน .. ก็ไม่รู้เรื่องกันทั้งคู่ แต่ตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าเราคงต้องรับรู้ทุกอย่างเรื่อย ๆ และต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองกันได้แล้ว เพราะเรามีครอบครัวแล้ว .. ปอไม่ใช่ลูกคนเล็กอีกต่อไป หลังจากแต่งงานก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ พี่ ๆ ปล่อยให้ปอจัดการเรื่องนี้เอง ..
ฉันไปถึงไร่ปอตั้งแต่เก้าโมงเช้า ซึ่งเป็นเช้าที่ลมแรงมาก ๆ แถมลมเย็นอีกต่างหาก ถือว่าโชคดีที่อากาศเป็นแบบนั้นนะ เพราะมันทำให้เราอยู่กลางแดดได้นานกว่าปกติ ปอก็ขับรถเอาหมุดปูนไปปักตามจุดที่เป็นเขตของไร่ โดยมีคนงานที่ทำงานในไร่นั้นไปชี้เขตให้ ..
หลังจากนั้น .. เราสองคนก็ต้องนั่งรถเจ้าหน้าที่มาวัด ในไร่เป็นยังงัยน่ะเหรอ .. ถ้าใครไม่เคยไปไร่อ้อยลองนึกภาพนะ มีต้นอ้อยสูงท่วมหัวเต็มแน่นพื้นที่ไปหมด และช่วงนี้อากาศแห้ง ต้นอ้อยจะแห้ง ฉันได้มีโอกาสได้ยินเสียงใบอ้อยเสียดสีกัน ตอนลมพัด ฟังแล้ว .. ก็เป็นความสงบที่ไม่เงียบ
เราเอารถกะบะที่ใช้ในไร่ประจำมา แล้วการเข้าไร่ครั้งที่สองในชีวิตฉันตั้งแต่คบกะปอ ก็เหมือนครั้งแรกเลยทีเดียว ครั้งแรก .. ขับรถจิ๊บไปด้วยกัน หน้าฝน แล้วรถก็ติดอยู่ในไร่ .. จำไม่ได้ว่าทำงัยถึงออกมาได้ ครั้งนี้ .. ขับรถกะบะไป หน้าแล้ง รถก็ติดอยู่ในไร่อีกเช่นเคย .. แต่คราวนี้ฉันจำได้ ว่าฉันช่วยปอขับรถไม่ได้เหมือนเดิม .. เหอะ ๆ ก็ช่วยทั้งกระโดด .. ขุดดิน และเอาใจช่วย อิอิ ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก นอกจากออกความคิดเห็น กะขุดดินได้แค่ทีละเท่าแมวเขี่ย ..
เราติดอยู่ในไร่กันสองคนประมาณ 2 - 3 ชั่วโมงเห็นจะได้ เริ่มตั้งแต่ .. เซ็ง ฉันก็หันไปนั่งกินข้าวไข่เจียวที่เอามาด้วย นั่งกินข้าวกันข้างไร่นั่นหละ นั่งกะดิน .. กลางแดดตอนเที่ยง ข้าวก็มีแต่ฝุ่นในไร่ .. แต่ก็อร่อยนะ .. ข้าวจานนึงแบ่งกันสองคน พอกินอิ่ม .. ก็นั่งคิดกันว่าจะเอางัยดีนะ .. ไปนั่งคิดกันใต้ต้นมะขามเทศในไร่ .. ฉันก็เก็บมะขามเทศกิน แล้วท้ายสุดเราก็ช่วยกันขุดดินจนหลุดออกมาได้
ฉันไม่ได้รู้สึกว่าลำบากนะ .. แต่รู้สึกว่า การอยู่ในที่โล่งและกว้าง .. มันทำให้ฉันมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นทะเล หรือว่ากลางไร่ .. ถึงแม้จะตัวดำกลับมา อย่างนึงที่รู้สึกคือ .. เรามีบททดสอบกันและกันอีกแล้ว แล้วเราก็ผ่านมันมาได้ .. สถานการณ์แย่ ๆ ไม่ได้ทำให้เราทะเลาะกัน
ตกลงว่าฉันอยู่ในไร่ตั้งแต่ เก้าโมงเช้า ถึงสี่โมงเย็น นั่งคุยกันได้หลายเรื่องเลย .. เพราะต้องนั่งรอเจ้าหน้าที่มาวัดที่ ก็ดีนะ .. นั่งพิงกัน คุยกันใต้ต้นไม้ .. ลมพัดเย็น ๆ ในที่โล่งกว้าง
++++++++++++
อยากรอฟัง คุณฐิตินาถ ณ พัทลุง วันเสาร์ 12 มีนาคม เวลา 3 ทุ่มที่ กรีนเวฟ ฉันเคยฟังเทปธรรมะที่คุณอ้อยบรรยาแล้วหนนึง อยากฟังอีก .. ถ้าไม่ลืมคงได้ฟัง
6 มี.ค. 2548
เวลา 20:31 น.
|