ต่างคนต่างมีแก้วเป็นของตัวเอง และทุกคนก็พยายามจะหาน้ำมาใส่แก้วของตัวเอง บางคนใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อหาน้ำมาใส่ให้ปริ่มแก้วตลอดเวลา
แก้วของแต่ละคนขนาดไม่เท่ากัน สัดส่วนของน้ำในแก้วของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน บางคนต้องการมีแก้วใบโต และต้องการน้ำปริ่มแก้ว บางคนพอใจแค่แก้วใบย่อมและน้ำแค่ครึ่งแก้ว
การพยายามจะเพิ่มขนาดของแก้ว และปริมาณน้ำ..ก็มีเรื่อย ๆ บางคนก็เพิ่มขนาดแก้วได้ทุกขณะที่เกิดความอยากได้อยากมี แล้วก็ทุ่มเท พากเพียรหาน้ำมาใส่แก้วของตัวเองได้
ไม่มีคำตัดสินว่าแก้วขนาดไหนดีที่สุด และน้ำแค่ไหนจะดีที่สุดเช่นเดียวกัน แก้วใบแค่ไหน .. น้ำมากน้อยแค่ไหน จะดีหรือไม่ดี .. จะพอหรือไม่พอนั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าของแก้ว และความพยายามในการหาน้ำมาใส่แก้ว ซึ่งแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน
อย่าเอาแก้วของตัวเองไปเปรียบเทียบกับแก้วคนอื่น อย่าพยายามเอาน้ำของคนอื่นมาเป็นน้ำของตัวเอง และ..อย่าเอาขนาดของน้ำและแก้วของตัวเองไปตัดสินคนอื่น
ฉันพยายามจะกำหนดขนาดแก้วของตัวเองให้คงที่ รวมทั้งการกำหนดอัตราการเติบโตของแก้วให้ดี ไม่โตเร็วจนต้องเหนื่อยมากเกินไปในการหาน้ำมาใส่ ฉันกำลังหาขนาดแก้วที่คงที่ ที่พอเหมาะสำหรับชีวิตฉัน เพราะฉันรู้ตัวเองดีว่า .. ฉันเสพความสุขมากกว่าเสพปริมาณน้ำเยอะ ๆ ฉันยอมทำหลาย ๆ อย่างเพราะฉันสุขใจที่จะทำ แต่ฉันจะไม่ยอมทำหลาย ๆ อย่างที่ไม่อยากทำเพื่อแลกกับน้ำที่จะเยอะขึ้น
ฉันอาจจะแปลก..ในสังคมของคนถือแก้วใบโต น้ำปริ่มแก้ว ฉันอาจจะเป็นเด็กโง่ที่ไม่อยากได้ commission เยอะแยะ ฉันอาจจะดูประหลาดที่ไม่อยากทำงานมากมายเพื่อเงินเดือน
เพราะฉันรู้สึกว่า ชีวิตฉันไม่ได้ต้องการเงินเดือนเพียงอย่างเดียว ฉันไม่ได้มีความสุขเพราะมีเงินเยอะแยะ .. เพราะที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็พอแล้วนะ ไม่อยากมีเงินเยอะ .. แล้วไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว ไม่อยากทำเงินให้โรงพยาบาลไปใช้สบายใจ
กำลังลองนั่งคิด .. ว่าแก้วน้ำของตัวเองจะขนาดสักเท่าไหร่ดีน๊า
23 พ.ค. 2548
เวลา 12:14 น.
|