อยากมีเหมือนเพื่อน
แม่ .. หนูอยากได้ปากกาลบได้ แม่พาไปซื้อหน่อยนะ
เสียงเอ่ยปากจากเด็กหญิงม้าเคิฟสุดที่เลิฟของแม่
เรียนเปียโนเสร็จ แม่ก็พอเข้าร้านขายหนังสือที่มีเครื่องเขียนขาย
แล้วด้วยความที่มนุษย์แม่อย่างเรา ไม่ได้อัพเดทโลกสักเท่าไรนัก
“ปากกาลบได้มันเป็นยังไงอะลูก มันคืออันไหน”
คุณผู้หญิงที่กำลังลองปากกาข้าง ๆ น่ารักมาก ช่วยชี้ให้ว่าตรงนี้คะ
ปลาทูรีบบอกว่าใช่ ๆ คว้ามาลองเขียน แล้วก็ลบให้แม่ดู
และตรงชั้นวางปากกาไม่ได้ติดป้ายราคาไว้ แม่ก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก
ปลาทูขอซื้อ 3 สี แม่ก็โอเค แต่ข้อตกลงคือ “หนูต้องจ่ายเงินเองนะ”
เด็กปลาทูงัดวิชาเลขขึ้นมาทันใด
ถ้าอันละ 20 บาท หนูจะต้องจ่ายแม่ 60 บาทถูกต้องไหมคะ ?
แม่ได้แต่ยิ้ม ใช่คะ !!
พอเดินไปถึงจุดจ่ายเงิน สิ่งที่เห็นคือ ปากกาลบได้ลดราคาคะ
จากปกติกี่บาทไม่รู้ ลดเหลือด้ามละ 58 บาท !!!
มนุษย์แม่ ถอยฉากจากคิวออกมาแทบไม่ทัน
เรียกเด็กมาคุยเลยว่า ปากกาด้ามละ 58 บาทนะลูก
มันแพงมาก เอาแค่สีเดียวก่อนดีไหม ?
เด็กยืนกรานว่า เอาหมด 3 สีคะแม่ เดี๋ยวมันขายหมด
แม่อธิบายยังไงก็ไม่มีผล เพราะคำเดียวคือ “หนูเอาเงินหนูซื้อไงแม่”
แม่ก็คิดขณะนั้นเลยว่า
ในเมื่อเราสอนให้เค้าคิดเองเลือกเอง เราก็ต้องยอมรับสิ่งนั้น
แต่แม่จะทำอย่างไรให้ลูกเข้าใจได้ว่า
เงิน 174 บาทมันเยอะเกินไปสำหรับปากกา
สมองแม่ก็คิดได้แค่ว่า เอาวะ !!! ต้องปล่อยให้ซื้อ เดี๋ยวก็รู้
เด็กได้ปากกา 3 ด้ามสมใจ มีความสุขเหลือแสน
ในระหว่างทางกลับบ้าน สมองมนุษย์แม่ประมวลติ้ว ๆ
จะทำยังไงดีนะ จะทำยังไงดีนะ ถึงจะเข้าใจคำว่า แพงเกินไป
กลับถึงบ้านเด็กรีบเขียนเล่นด้วยปากกาของตัวเอง
แม่จึงเอ่ยว่า เอาเงินมาจ่ายคืนแม่ก่อน นับมาจากกระป๋องตังค์ตัวเองเลย
มีอิดออดคะ จะจ่ายแม่แค่ 120 บาท
แม่เลยบอกว่า ราคาคือ 174 บาท เราตกลงกันแล้วนะ ว่าลูกจะซื้อเอง
พอได้นับเงินของตัวเองจ่าย คงมีคิดบ้างแล้วหละว่าเงินมันหายไปเยอะ
แล้วเวลานั้น แม่ก็คิดขึ้นมาได้ !!!
นับเงินที่เหลือซิลูก เหลือเท่าไหร่ ?
นับไปนับมา เหลือสามร้อยกว่าบาท
แม่จึงเอ่ยขึ้นว่า นี่ถ้าไม่ซื้อปากกา จะมีเงินทั้งหมดเท่าไหร่นะ
โห เกือบ 500 บาทเลย
เด็กคงเริ่มได้คิด จริงเหรอแม่ หนูจะมีเงินเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ
เลยบอกว่า ใช่จ๊ะ แต่หนูซื้อปากกาไปแล้ว ต้องเก็บเงินใหม่แล้วหละ
จากอารมณ์ที่ เงินหนูมีเยอะ ซื้อ 3 ด้ามไม่เป็นไรแม่ ยังมีเงินเหลือ
แม่เชื่อว่า ตอนนี้ ความ “เสียดาย” กำลังเกิดขึ้นในใจลูก
แม่ก็หยุดไว้แค่นั้น ไม่พูดอะไร ทิ้งท้ายไว้แค่
การจะซื้อของชิ้นใหญ่ หรืออยากได้อะไรหลายอย่าง
ก็ต้องแลกกับเงินเยอะหน่อย อดทนเก็บนานหน่อยนะ
เด็กเอาปากกาของตัวเองมาเขียนต่อ แล้วจู่ ๆ สีชมพูก็เขียนไม่ออก
เขียนได้ไม่ถึง 5 นาที ก็เขียนไม่ออกแล้ว
แหม !! มันยังสบโอกาสของแม่จริง ๆ ได้ทีจะสอนอีกเรื่อง
ของบางอย่าง มันราคาแพง แต่ก็ใช้ได้ไม่นานนะลูกนะ
ความรู้สึกอยากมีเหมือนคนอื่น
แม่ยุ้ยว่ามันเป็นธรรมดาของมนุษย์นะคะ ผู้ใหญ่ยังเป็นเลย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ แม่คาดไว้แล้วว่าจะต้องเกิด
แต่สิ่งที่จะช่วยให้ลูกยืนหยัดอยู่ท่ามกลางความอยากที่รุมเร้าในใจ
คือการรู้จัก “ยับยั้ง ชั่งใจ” แล้วพิจารณาว่าอะไรที่เหมาะกับเรา
หลายคน ยอมเป็นหนี้เป็นสิน เพียงเพราะ “หน้าตาทางสังคม”
หรือหลายคน ยอมติดลบ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เพราะ ไม่รู้จักประมาณตน
วันนี้ถือเป็น บทเรียนเรื่องหนึ่งในชีวิตของปลาทูคะ
และก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียนของแม่ยุ้ยเองด้วยที่จะสอนลูก
” พอ เมื่อไหร่ ก็สุขใจได้เมื่อนั้นนะคะ”