ทุกปัญหามีทางออก..ได้ยินมาจนจำขึ้นใจ แต่กว่าจะเจอทางออก..เราก็ต้องปั่นป่วนเพราะปัญหาก่อน หลายต่อหลายครั้งฉันคิดว่าปัญหาคือเรื่องน่าปวดหัว แล้วฉันก็ปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉันคิดว่าหลาย ๆ อย่างคือปัญหา แต่ทุกวันนี้ บางเรื่องฉันปวดหัวน้อยลง เพราะฉันคิดว่า มันไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้ว เลยทำให้ฉันมองข้ามมันไป .. และไม่ปวดหัว อีกมุมนึงที่ฉันกำลังจะคิดคือ .. ปัญหาไม่ได้ทำให้เราปวดหัว ถ้าเรารู้สึกกระตือรือรนที่จะจับมันมาแก้ไข พยายามจะคิดในแง่บวกให้มาก ๆ พยายามจะปล่อยประจุบวกเพื่อให้ประจุลบแพ้ภัยไปด้วยตัวเอง
คำตอบที่ฉันได้คือ ทางออกอยู่ที่ใจเรานั่นหละ ว่าจะเลือกทุกข์กับสิ่งที่เข้ามากระทบหรือไม่ เหมือนอย่างที่เคยได้ยินใครต่อใครพูดกันว่า ทุกข์มีไว้ให้เห็น ไม่ได้มีไว้ให้เป็น (ล่าสุดอ่านเจออีกครั้งจากมิงค์) พระท่านก็ว่าไว้ว่า เมื่อเราทุกข์ เราต้องหาเหตุเพื่อที่จะดับทุกข์
ก็ไม่เก็บมาคิดซะ ... มันก็ไม่ทุกข์ใช่มั๊ย
ตอนนี้ฉันเลิกทุกข์เพราะต้องอยู่ท่ามกลางการเมืองในองค์กร และฉันกำลังพิจารณาโอกาสที่จะไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ ซึ่ง..ไม่มีใครบอกได้ว่า จะดีกว่าหรือว่าแย่กว่า ? ฉันว่าทุกอย่างต้องเสี่ยงหมดทั้งนั้น..เพราะไม่มีใครตอบอะไรได้ทั้งสิ้น นอกจากเราต้องกระโดดไปลองด้วยตัวเอง เพียงแต่เราอาจจะสามารถไตร่ตรองจากข้อมูลที่ได้มา แต่นั่นก็จะถือเป็นความจริงและยึดมั่นว่าจะเป็นแบบที่เราคิดเสียทั้งหมดก็ไม่ได้
ลองนึกซิว่า ถ้าโอกาสที่มีมันคือทางออกที่ดี ทำไมเราจะไม่คว้าไว้
22 ต.ค. 2547
เวลา 22:44 น.
|