เมื่อคืนวันที่ 1 มิย. เวลา 3.00 น เกิดการปวดท้องอย่างรุนแรง วิ่งเข้าห้องน้ำเป็นว่าเล่น ออกทุกทาง .. ผลัดกันออกบ้าง.. ออกพร้อมกันบ้าง จนไม่ไหวเพราะปวดท้องเหมือนโดนบิดไส้
ทนไม่ไหว .. ปลุกปอพาไปหาหมอดีกว่า ไปถึงห้องฉุกเฉิน ไม่ทันได้คุยกับใคร ขอให้เค้าเข็นรถเข้าห้องน้ำก่อนเลย ไม่เคยปวดท้องได้ทรมานแบบนี้มาก่อนเลย
ในที่สุดก้อต้องนอน รพ. หมอฉุกเฉินไม่ทำอะไรเลย นอกจากให้น้ำเกลือกับยาอะไรอีกไม่รู้ สองเข็ม ตอนเจาะน้ำเกลือ ก็ต้องมีการเจาะเลือดไปตรวจ คือว่า บีบก้อแล้ว รีดก้อแล้ว เลือดไม่พอให้ตรวจ ปกติจะใช้เลือกจากเข็มที่เจาะน้ำเกลือ แต่.. ไม่มีเลือดออกเลย เลยจำเป็นต้องเปลี่ยนที่เจาะ ต้องเจาะใหม่อีกครั้งที่ข้อพับ เหมือเวลาบริจาคเลือดน่ะ คือว่า .. เจ็บนะ แต่ก้อต้องยอม
ขึ้นไปบนห้องพัก ท้องก้อยังไม่หายปวด ก้อยังต้องเข้าห้องน้ำ มือก้อติดน้ำเกลือแล้ว ทีนี้หละ ปอคนเดียวเท่านั้นที่รับบทหนัก พาเสาน้ำเกลือของฉัน และหิ้วฉันเข้าห้องน้ำ แรงจะยืนก้อไม่ค่อยจะมี แต่ก้อยังไม่หยุดถ่าย คือว่า เป็นสิบรอบอ่ะนะ .. สิ่งสำคัญคือ คืนนั้นปอทำงานกลับเที่ยงคืนได้ ยังไม่ได้นอนสักเท่าไหร่ ก้อต้องมาผจญภัยกะฉันแล้ว
ฉันยังคงปวดท้องรุนแรงมากจนพยาบาลเข้าห้องหลายรอบ เพราะกดเรียกมารับฟังว่า ... ปวดท้องมากค่ะพี่ ทำอะไรกันสักอย่างได้ไหม ในที่สุด ฉันก้อนอนปวดท้องจนสิบโมงเช้า
หมอเข้ามาพร้อมหน้าตาตื่นเล็ก ๆ บอกว่า อาการคุณหนักกว่าที่หมอคิดไว้เยอะนะ โดยปกติคนทั่วไปเวลาอาหารเป็นพิษจะมีเม็ดเลือดขาว 5,000 แต่ผลเลือดของฉัน มีเม็ดเลือดขาวอยู่ 18,000 พูดง่าย ๆ คือฉันเป็นหนักกว่าคนทั่วไปสามเท่า นี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงปวดท้องมหาศาลขนาดนี้
ขณะที่นอนอยู่ รพ ฉันถ่ายวันละประมาณ 5-8 ครั้ง ให้น้ำเกลือข้างซ้ายไปประมาณ 3 ถุงพร้อมยาเข้าเส้นอีกเพียบ เส้นเลือดรับไม่ไหว แขนฉันบวม บวมเหมือน "ทีนตะเข้" เลยอ่ะ ต้องย้ายแขน .. เจ็บตัวครั้งที่สาม
แต่ .. กว่าจะเจาะน้ำเกลือข้างขวาได้ เนี้ย น้ำตาไหลพราก เพราะพยาบาลเจาะแล้วเส้นแตก คว้านก้อแล้ว ถอยหลังเดินหน้า เจาะสองรอบ .. จนฉันร้องไห้แล้วบอกไปว่า " ไม่ไหวแล้วค่ะพี่" เลยยกธงขาวขอพัก หยุดการเจาะน้ำเหลือนรกไว้เพียงแค่นี้ เพราะถ้ายังพยายามต่อไป ฉันจะด่าแน่นอน
แล้วอีกครึ่งชั่วโมง ก้อเปลี่ยนพยาบาลมาใหม่ เจาะกันอีกรอบ .. คราวนี้ใช้เวลานานพอดู แต่สำเร็จ ฉันเลยคิดว่า น่าจะมีพยาบาลผู้เชี่ยวชาญสำหรับเจาะโดยเฉพาะนะ
จากนั้น .. ฉันก้อทานข้าวไม่ค่อยถนัดนัก แขนข้างซ้ายที่ผ่านน้ำเกลือมา 3 ถุงยกไม่ขึ้น เลยต้องนอนเป็นคนไม่มีมือ .. แหกปากเรียกปออย่างเดียว
ทำอะไรเองไม่ได้เลย ใครโทรมาก้อให้ปอรับ หรือไม่ก้อเปิดสปีกเกอร์คุยกะฉัน
ส่วนงูสวัสดิ์ที่สงบศึกชั่วขณะเพราะดีขึ้นจากการได้นอนพัก ก้อกำเริบขึ้นมาเพราะร่างกายอ่อนแอแบบนี้ หมอบอกว่าดีเลย นอนทีเดียว ดูมันสองเรื่องเลยหละกัน
ท้ายที่สุด .. ฉันนอน รพ. ทั้งหมด 3 วัน 2 คืน เหมือนไปฮันนี่มูนเลยเนอะ ส่วนปอ เฝ้าฉันจนตัวเองไข้กิน นอนง่อมอยู่เนี้ย
ฉันยังไม่สามารถจะกินอะไรได้แบบปกติ กินได้แต่ข้าวต้ม กะหมูสับ เต้าหูไข่ วุ้นเส้น หมูหยอง เพราะลำไส้ยังไม่สามารถจะทำอะไรได้มาก ฉันยังถ่ายแบบท้องเสียอยู่จนวันนี้ หมอก้อนัดไปเช็ค แต่สถิติน้อยลงเหลือวันละ 3 ครั้งแล้ว
วันนี้ทำแววตาน่าสงสารแล้วถามหมอว่า ขอทานอย่างอื่นนอกจากนี้บ้างได้ไหมค่ะ คือว่าอยากทานผัก ผลไม้บ้าง .. หมออมยิ้มแล้วตอบกลับมาว่า ไม่ได้ครับ เพราะแค่ข้าวต้มลำไส้ใหญ่ยังทำงานไม่ได้เลย คือว่า หมอค่ะ ปอกินลิ้นจี่ ทุเรียน แคนตาลูป หมอหัวเราะร่วนเลย
นอน รพ. ถามหมอว่า หมอค่ะจะหายเมื่อไหร่เนี้ย คือว่านัดช่างภาพกับจองรีสอร์ทไว้จะไปถ่ายรูป ถ่ายรูปแต่งงานน่ะค่ะ ... วันที่ 13 เดือนนี้ หมอบอกว่า .. กราฟฟิกพอช่วยได้สำหรับงูสวัสดิ์ แต่อะไรก้อช่วยไม่ได้ถ้าลำไส้ยังเป็นแบบนี้
คือว่า วันนี้ออกจาก รพ ฉันก้อประคบจนแขนยุบบ้าง กดโทรศัพท์ไปยกเลิกรีสอร์ทแล้ว ส่วนช่างภาพยังไม่ได้โทร กะว่าจะเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ส่วนเรื่องงาน หยุดมาสองอาทิตย์แล้ว ไม่รู้ว่าไปทำงานวันจันทร์เนี้ยจะเป็นงัยบ้าง หัวหน้าจะกองของฉันไว้หน้าออฟฟิตรึยังน๊าาาาา
แต่ก้อเอาเหอะนะ ชีวิตปีนี้ถือว่า สุด สุดแล้ว ถ้าจะต้องเสียงานอีกสักอย่างก้อทำใจว่า สุด สุด สุด หละกัน
สิ่งเลวร้ายมักจะซ่อนสิ่งที่ดีที่สุดไว้เสมอ เพราะเธอไม่เคยไปไหนเลย ลากเสาน้ำเกลือ .. ป้อนข้าว หาน้ำให้กิน กินทุเรียนต่อหน้าต่อตา กินกะเพาหมูสับให้ดูแบบว่า .. นะ
บางทีปีนี้อาจจะแย่ในหลาย ๆ ด้าน แต่ทำให้ฉันได้รู้แล้วว่า ฉันตัดสินใจถูกแล้ว ที่จะเลือกให้ผู้ชายคนนี้ ลากสายน้ำเกลือทุกครั้งไปตลอดชีวิต

4 มิ.ย. 2547
เวลา 23:11 น.
|