อยากกลับไปอยู่บ้านนอกโดยเร็ววัน เบื่อชีวิตในเมืองหลวงเต็มที่แล้วฉัน แต่ยังต้องใช้ความอดทน ทนอยู่ต่อไปในเมือง เพราะยังคงต้องรอเวลาที่เหมาะสม และยังมีปัจจัยอีกสองสามอย่างที่ต้องรอ
ฉันรู้สึกอยากอยู่ใกล้ ๆ ครอบครัว ฉันรู้สึกอยากจะหนีความวุ่นวายของเกมส์ในสังคมเมือง ฉันไม่มีความสุขในการปั้นหน้าไปวัน ๆ นักหรอก ฉันอยากอยู่แบบธรรมชาติ ที่ไม่รู้สึกอึดอัดหรือต้องบังคับตัวเองนัก
ฉันไม่ได้ต้องการความซีวิไลซ์อะไรเลย ฉันว่าฉันดำเนินชีวิตได้ถ้าไม่มีห้างให้เดินบ่อยนัก ฉันว่าฉันอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพับ หรือ ร้านอาหารหรู
ฉันคิดไว้ในใจว่า บ้านน้อยหลังนี้ของเราจะต้องมีตู้เย็นที่มีไอติมอยู่ตลอดเวลา มีสายโทรศัพท์ให้ต่อเน็ตได้ ... ฉันยังคงทำมาหากินผ่านเน็ตได้สบาย ๆ นั่งเขียนหนังสือแล้วก็ส่งต้นฉบับผ่านเน็ตไปโผล่ในมือ บก. ฉันหาหนังสืออ่านได้จากการสั่งซื้อผ่านทางเน็ต ฉันคุยกับเพื่อน ๆ ที่สนิทได้ผ่านทางเน็ตทุกคน
กิจการเล็ก ๆ ที่ฉันกับปอกำลังหาข้อสรุปอยู่นั้น หากมันเรียบร้อยและพอจะมีแนวทางที่จะเริ่มได้ ฉันคงจะได้เริ่มนับถอยหลังเสียที กับการกลับไปมี สำนึกรักบ้านเกิด
กลับบ้านเรา .. รักรออยู่ ฉันชอบคำนี้นะ ฉันว่ามันคือความจริง ตอนนี้ฉันนั่งอยู่มุมนึงของบ้านหลังน้อย ที่มีแต่รัก มีหมานอนอยู่ปลายเท้าตัวนึง วิ่งไปวิ่งมาเหมือนม๊อบดำ ๆ อีกตัว หลานชายคนโตกำลังตีกลองชุดอย่างเมามัน ส่วนกู๋ปอ ก็มีกีตาร์ไฟฟ้าอยู่ที่พุง พี่สาว และพี่เขยปอ เป็นผู้ชมที่คอยช่วยตีฉาบ กับเต้นอยู่ข้าง ๆ ส่วนฉัน .. กำลังพยายามจะนั่งฟังว่ามันเป็นเพลงไหม โดยมีเจ้าหลานคนเล็กตัวแสบ คอยถากถางว่าฟังไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ
เนี้ยหละ .. นิยามของคำว่า "บ้าน" ที่ฉันต้องการ เย็นนี้ตอนทานข้าวเย็นด้วยกัน ฉันจะคุยเรื่องโปรเจคใหม่ที่ฉันกับปอเอาข้อมูลกลับมา บางทีฉันว่า .. ฉันคิดสวนทางกับคนมากมาย หลายคนอยากจะตะกายเข้าไปในเมืองหลวง แต่ฉันกับปอ กลับรู้สึกอยากกระโจนออกมา
กลับบ้านเรา .. หลานรักรออยู่ ปอพูดประโยคนี้หลังจากเร่งให้ฉันเก็บของกลับบ้านมาไว ๆ ฉันก็รู้สึกอยากกลับมากอดหลานตัวกลม ๆ เนี้ยเหมือนกัน
เมื่อไหร่น๊า .. ฉันจะได้กลับมาอยู่บ้านหลังเล็ก หลังนี้เสียที แต่ฉันหวังว่า .. จะได้ฟังเสียงกลองกะกีตาร์ที่มันเป็นเพลงเข้าสักวัน แล้วฉันจะลองไปช่วยร้องดูบ้าง
11 ก.ย. 2547
เวลา 14:56 น.
|