ไม่ได้คิดอะไรเรื่องอื่นเลยพักนี้ ไม่ค่อยได้อัพเดทไดอารี่อีกด้วย แถมยังไม่ค่อยได้คุย MSN กับใครสักเท่าไหร่เหมือนกัน
คงเพราะเริ่มจะต้องคิดโน้นเตรียมนี่เกี่ยวกับงานแต่ง เริ่มต้องลงรายละเอียดมากขึ้นแล้ว ตอนนี้วัน ๆ ก็นั่งนับโต๊ะจีน ว่าตกลงจะต้องใช้สักกี่โต๊ะ ไป ๆ มา ๆ งานที่ฉันคิดว่าคงมีแค่คนสนิทและญาติผู้ใหญ่ ตอนนี้กลายเป็นงานประเพณีประจำปีไปแล้ว เหอะ ๆ ประชาชนมากหน้าหลายตา..ต้องเชิญให้ทั่วถึง เพราะงานนี้ไม่ได้จัดเพื่อเราสองคน เป็นการจัดเพื่อหน้าตาของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ฉันเชื่อว่าแขกบางคนยังไม่เคยเห็นหน้าฉันมาก่อนเสียด้วยซ้ำ
การกำหนดจำนวนแขกให้ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด แขกจะรู้สึกประทับหรือไม่ประทับใจก็ตรงเนี้ยหละ ถ้าเรามีที่ทางต้อนรับได้เพียงพอก็คงจะรอดตัวไป แต่มันเป็นเรื่องที่ยากที่สุดเลยนะ..
ช่วงนี้ฉันเริ่มต้องลาพักร้อนบ่อยขึ้น บ่อยจนหัวหน้าเอ่ยปากบ่นเลยนะ..ขอบอก อาทิตย์หน้าลาสองวัน วันจันทร์ กับ วันศุกร์ วันจันทร์หน้าต้องไปเดินพาหุรัด ไปซื้อชุดให้ flower girl และวันศุกร์ต้องไปวัดตัวตัดชุดแต่งงาน และไปงานแต่งคนอื่นต่อ
ฉันว่า..ความคิดของเราสองคนคือไม่อยากให้ทุกอย่างมันใหญ่โต แต่ท้ายที่สุดเราก็ต้องยอมทำตามดำริของผู้ใหญ่ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่า มันจะออกมาในรูปแบบนี้ แต่วันนี้ฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่า .. เรื่องของคนสองคนน่ะ มีขอบเขต ส่วนเรื่องของสองครอบครัวน่ะ คือสิ่งที่เราต้องยอมเข้าใจ บางทีเราก็ต้องยอม..เพื่อให้เกิดความราบรื่น
การจะเริ่มเป็นภรรยาเนี้ย .. คงต้องหนักแน่นให้มาก ๆ คงจะเป็นฟีเจอร์บังคับที่จำเป็นต้องทำให้ได้ หนักแน่นให้มาก ๆ เพราะไม่ว่าจะกระแส หรือ คำแนะนำ คือสิ่งที่เราต้องรับฟัง แต่เราก็ควรจะเลือกปฎิบัติตามด้วยเหตุผล และความเข้าใจในเราสองคน
ว่าที่ภรรยามือใหม่อย่างฉัน คงต้องเริ่มหาหินมาถ่วงให้ตัวเองหนัก ๆ กว่านี้แล้วหละ
4 พ.ย. 2547
เวลา 08:38 น.
|