โดยอุปนิสัยแล้วฉันไม่ใช่คนโวยวาย ฉันไม่ชอบยุ่งวุ่นวายเรื่องที่ไม่ใช่เรื่อง แล้วเรื่องไหนที่ไม่ถึงที่สุด ฉันจะไม่พูด
แต่วันนี้ .. เหลืออด เหลือทนจนรับไม่ได้ หลังจากที่พ่อเสีย มีหายเรื่องตามมาให้ปวดหัว ฉันมองคนบางคนผิดไปโดยสิ้นเชิง ผิดแบบพลิกจนไม่เหลือรูปเลยด้วยซ้ำ
ภรรยาใหม่ที่พ่อใช้ชีวิตอยู่ด้วย จากที่ฉันเคยคิดว่าเค้าดูแลใส่ใจพ่อฉันยามเจ็บไข้ หนี้สินมากมายเกิดจากการรักษาเยียวยาโรคประจำตัวพ่อ ด้วยความเห็นใจ ฉันยินดีจะยกมรดกส่วนของฉันให้ผู้หญิงคนนี้ ด้วยหวังว่าเค้าจะเอาไว้เลี้ยงลูกเค้า ก้อคือลูกพ่อฉันอีกนั่นหละ
แต่อยู่ ๆ เหมือนเหตุการณ์ดลใจ ฉันฝันเห็นพ่อ .. มาขอโทษ มาขอกอดก่อนจะไป แล้วบอกว่าพ่อยังมีอะไรคาใจอยากจะบอกฉันกะแม่อีกมากมาย พ่อได้แต่พูดว่า จำไว้นะลูก กรรมใครกรรมมัน ใครทำใครก้อต้องรับ
หลังจากฝันครั้งนั้นฉันก้อยังไม่เข้าใจ ว่าพ่อมาบอกแบบนี้ เพื่ออะไร และพยายามจะบอกอะไรฉัน ในขณะเดียวกัน แม่ก้อฝันเห็นพ่อด้วยเรื่องเดียวกัน และประโยคเดียวกันที่พ่อมาบอก
ฉันจึงให้แม่โทรศัพท์ทางไกลไปที่ทำงานพ่อ มีผู้ชายคนนึงรับสาย .. แล้วก้อบอกว่า ทุกคนที่นี่ทนไม่ไหว ทนเห็นน้องยุ้ยต้องมานั่งรับผิดชอบในสิ่งที่ไม่ได้ก่อไม่ไหวแล้ว ผู้หวังดีปลายสาย เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้ฉันกะแม่อึ้ง
หลังจากได้รับรู้อะไรมากมายในวันนั้น ทำให้ฉันต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจากบุคคลอื่น เพื่อทำให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้ฟังความข้างเดียว แล้วทุกเสียงก้อพูดเป็นเสียงเดียวกันกับสิ่งที่แม่ฉันได้ยินมา
หนี้สิ้นมากมายกว่าครึ่งล้านของพ่อนั้น เกิดมาจากการติดการพนันของภรรยาที่ดูจะแสนดีคนนั้น คนที่ฉันอุตส่าห์เห็นใจ... ตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องโกหกให้ฉันฟัง ผู้หญิงคนนี้ก่อหนี้สินให้พ่อฉันต้องรับผิดชอบมากมาย พ่อคิดหนัก .. ร้องไห้หลายครั้งที่ต้องไปหยิบยืมเงิน ต้องดึงจากคนนึง มาใช้ให้อีกคน ท้ายที่สุด .. พ่อเครียดหนัก ตรอมใจ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ฟังแล้ว..เหมือนนิยาย หรือละครหลังข่าว แต่มันเกิดขึ้นกับชีวิตจริง ๆ ของผู้ชายที่ให้กำเนิดฉัน ถึงแม้ว่าพ่อจะเพียงแค่ทำให้ฉันเกิดก้อตามที แต่ฉันกับแม่กลับรู้สึกสงสารเค้าอย่างจับใจ ที่ต้องมาเจอสภาพย่ำแย่แบบนี้
ตอนนี้สิ่งที่ฉันรู้ .. ฉันทนนิ่งเงียบ ไม่เห็นความจำเป็นต้องบอกให้ใครรับรู้ว่าฉันกระจ่างแล้ว แต่เจ้าตัวต้นเรื่องยังคงโทรมาเล่าความทุกข์ ว่าไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย .. ไม่มีจะกิน ทั้ง ๆ ที่ได้รับเงินก้อนนึงจากมรดกไปแล้วหลักแสนคนเดียว ฉันไม่ได้เรียกร้องจะรับเงินตรงนั้นเลยสักบาทเดียว
ด้วยความไร้สามัญสำนึก .. เธอยังโทรมาเอ่ยปากขอเงินฉัน ในส่วนที่ฉันจะได้รับก้อนแรก ประมาณ สามหมื่นบาท มาขอแบ่งไปกินใช้ จนกว่าจะได้เงินก้อนจากบำเน็จ เดิมฉันตั้งใจจะแบ่งให้ครึ่งนึง และเก็บอีกครึ่งนึงไว้ส่งให้คนค้ำประกันหนี้ของพ่อ หนี้บางส่วนคนค้ำประกันต้องชดใช้แทนจนกว่าจะนำเงินก้อนไปใช้ ฉันทำหน้าที่ นำเงินจำนวนที่ตัวเองได้รับ ชดใช้ให้คนค้ำประกันทุกเดือน เดือนละ ห้าพันได้
หลังจากกระจ่างในพฤติกรรมเลว เลวของผู้หญิงคนนี้ ฉันก้อนิ่ง ไม่เอ่ยปากจะให้ แต่ก้อไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่าไม่มีค่ะ ฉันทน.. และเก็บทุกอย่างไว้เพราะคิดว่าพูดไปก้อเท่านั้น
จนเมื่อวาน ... ผู้หญิงไร้จิตสำนึกคนนี้ทำกับฉันอย่างแสบสัน ให้เบอร์มือถือฉันกับเจ้าหนี้ทุกคนที่มี แล้วบอกว่าฉันได้เงิน ฉันมีเงินให้มาทวงเอากับฉัน เมื่อวานฉันต้องรับสายเจ้าหนี้จนปวดหัวไปหมด
หมดความอดทนกันแล้วหละ .. ฉันโทรไปบอกครอบครัวของผู้หญิงคนนั้นทุกอย่าง ว่าทำตัวแบบนี้ เคารพกันไม่ได้แล้ว ... พอกันที ฉันอุตส่าห์ไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรแล้วนะ แต่วันนี้ฉันเดือดร้อน .. ฉันนิ่งต่อไปไม่ได้แล้ว ฉันขอพูดทุกอย่างให้ทุกคนรับรู้ไว้ซะว่า ผู้หญิงคนนี้ทำตัวเลวทรามต่ำช้าขนาดไหนกับพ่อฉันบ้าง โกหกพกลม .. ทำตัวไม่น่ายกมือไหว้ แล้วนับจากวันนี้ไป .. ไม่มีความจำเป็นต้องติดต่อกัน ไม่มีความจำเป็นต้องนับถือ หรือพูดคุยกันอีก พอกันที ... ลูกเค้าก้อเลี้ยงเอาเอง ไม่ต้องมาเรียกร้องความเป็นพี่จากฉันอีก
วันที่แม่ฉันลำบาก .. เลี้ยงฉันมาคนเดียว แม่ฉันยังสามารถดูแลฉันมาได้ ตอนนี้ลูกใคร ใครก้อเลี้ยงเอาเองหละกัน ไม่มีความเมตตาจากฉันอีกต่อไปแล้ว ไม่จำเป็น
จะว่าใจดำก็ไม่สนใจ เพราะวันที่กู้หนี้ยืมสินกัน ฉันไม่ได้ไปร่วมใช้เงินด้วยเลยสักบาท วันนี้ฉันใช้หนี้ให้เป็นแสนเนี้ย ฉันก้อถือว่าฉันทำมากพอแล้ว ฉันทำเพราะเห็นแก่พ่อ ที่เป็นพ่อฉันหรอกนะ ฉันคิดว่าฉันทำบุญครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้วหละ
ฉันที่ดูเหมือนจะนิ่ง ๆ และยอมใคร วันนี้มันไม่ใช่แล้ว ... ฉันไม่ได้ร้ายใส่ใครก่อน ฉันเพียงรักษาสิทธิที่ตัวเองพึงจะมี และไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบก้อเท่านั้นเอง
นับจากนี้เงินมรดกที่เกิดจากบำเน็จส่วนที่เหลือ ฉันจะเอาไปทำบุญ .. อุทิศส่วนกุศลให้พ่อ คงจะดีกว่า .. เอาไปให้ผู้หญิงสิ้นคิดคนนี้ละลายเล่นในบ่อน
ยุ้ยในโหมดนักรบ
21 พ.ค. 2547
เวลา 12:59 น.
|