บ่อยเลยนะที่ฉันท้อ และเหนื่อยกับหลายสิ่งรอบตัว
จนบางที .. ทางออกก้อคือ ฉันอยากจะไปเสียให้พ้น
แต่แล้ว ...
ความคิดและความรู้สึกนั้นก้อต้องหยุดนิ่ง
เพราะคำคำนี้
" ลองดูอีกสักตั้งน่า "
หลายครั้งนักที่ฉันต้องมาชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีและข้อเสียกับสิ่งที่เจอ
แล้วฉันก้อจะพบข้อดีที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันควรจะสู้ต่อ
อีกเหตุผลนึงคือ
ฉันจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับกระแสสังคมมากกว่านี้
ปรับตัวนะ ไม่ใช่ยอมโดนกลืน
ฉันจะต้องอยู่อย่างไม่ฝืน แต่ไม่ยอมโดนกลืน
นั่นคือประเด็นหลักที่กำลังพยายามอยู่ในทุก ๆ วัน
หลายครั้ง ... ที่ฉันได้แนวความคิดของพี่ และ เพื่อนที่รัก
ทำให้ฉันคิดเรื่องบางเรื่องน้อยลง
สบายใจที่ได้ระบายมลพิษทางความรู้สึกออกมาบ้าง
บางครั้งคนที่รักฉันเหล่านั้น ทำให้ฉันมีเลนส์ในการมองคนแปลกไป
ฉันจำเป็นต้องแบ่งแยก ความโปรงแสง และความโปรงใส
ของคนในสังคมรอบตัวมากขึ้น
เดิม ฉันมีแค่ ขาว กะ ดำ
ไม่เอาคือไม่เอา
แต่ทุกวันนี้ จำเป็นต้องมี ฟิวเตอร์โปรงแสงเข้ามาช่วย
ถ้าหนักหนาหน่อยก้อคงต้องใช้ฟิวเตอร์โปรงใสเลย
..........................
ขอบคุณสำหรับแนวความคิด
การมองคนบางคนให้เป็นเพียงแค่อากาศธาตุ
แล้วจะนำมาปรับใช้กับชีวิตในทุก ๆ วันหละกัน
แล้วฉันก้อกำลังจะเริ่มบอกตัวเองอีกครั้งว่า
ลองดูอีกสักตั้งเนอะ
.....................
โอกาสดี ๆ ไม่ได้มีกันทุกคน
ในเมื่อฉันมีโอกาสบางอย่างที่ดีกว่าคนอื่น
ทำไมฉันไม่เรียนรู้ที่จะใช้มันให้คุ้มค่า
และอดทนให้ถึงที่สุดเพื่อรักษาโอกาสนั้นไว้หละ
จริงมั๊ย ???
7 ม.ค. 2547
เวลา 21:53 น.
|