มนุษย์แม่รำพึงแม่อยากแชร์

เมื่อลูกหัวใจเต้นผิดจังหวะ SVT

หลาย ๆ คนที่ติดตามกันอยู่ประจำจะรู้ว่า แม่ยุ้ยได้รวบรวมเรื่องราวของอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะของปลาทูตั้งแต่วันที่ 3 กพ 66 ไว้ในอัลบั้ม “ปลาทูหัวใจเต้นผิดจังหวะ” แล้วนะคะ ไปย้อนอ่านตามหลังแบบละเอียดกันได้นะ

วันนี้แม่จะมาขอสรุปให้ฟังโดยละเอียดกันอีกทีไว้ในโพสนี้นะ

ปลาทูมีอาการเหนื่อย หอบ ใจเต้นแรง จนพูดฟังไม่รู้เรื่อง เมื่อวันที่ 3 กพ. 66 ตอนช่วงที่ไปเข้าค่ายกับ รร. ที่สระบุรี โทรมาหาแม่ในเช้าวันที่จะต้องเดินทางกลับ ว่ามีอาการ ครูจะให้นั่งรถตู้ครูแยกมาเพื่อเดินทางกลับ ให้แม่มารอรับที่ โรงเรียนแล้วพาไปหาหมอทันที ระหว่างทางครูให้ดมแอมโมเนียและกินยาแก้เวียนหัว ลูกก็พอจะหลับได้บ้าง

ถึง กรุงเทพฯ แม่พาไปหาหมอที่ศูนย์แพทย์พัฒนาฯ ตรงจุดคัดกรองหัวใจเต้น 185 พยายาบรีบพาเข้าห้องฉุกเฉิน ก็ยังวัดได้ 155 หมอตรวจเลือดทุกอย่างที่จะมีอาการเกี่ยวข้อง ทุกอย่างปกติหมด หมอบอกว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะ ต้องฉีดยาเพื่อให้หัวใจน้องเต้นช้าลงก่อนแล้วส่งตัวไป รพ. ใหญ่ที่มีห้อง CCU เพื่อเฝ้าดูอาการหลังฉีดยา Adenosine เพราะยาที่ฉีดเป็นยาความเสี่ยงสูง ให้ทำเรื่องย้ายไป รพ. ตามสิทธิ์ดีกว่า เพราะน่าจะต้องรักษากับหมอเฉพาะทางโรคหัวใจและน่าจะต้องรักษากันเยอะ ถ้าแม่ไม่มีประกัน หรือสามารถจ่ายค่าใช้จ่ายใน รพ. เอกชนได้ วันนั้นเราย้ายไป รพ. ตามสิทธิ์บัตรทองลูก ด้วยรถฉุกเฉิน เมื่อไปถึง หัวใจลูกเต้น 98 ทางหมอฉุกเฉินที่อยู่แจ้งว่า อาการปกติแล้ว ให้กลับบ้านได้ แต่ไม่มีใบส่งตัว ก็จ่ายเงินกันเอง เราผ่านพ้นคืนนั้นไปได้ด้วยการที่พ่อนั่งเฝ้าลูกตลอดทั้งคืน คอยดูอัตราการเต้นของหัวใจลูกตลอด จนครบ 24 ชั่วโมง ที่บ้าน

แม่เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการของโรคนี้ สอบถามคนรู้จักและเพื่อน ๆ เกี่ยวกับหมอโรคหัวใจ รวมถึงสอบถามคุณแม่ คุณพ่อในเพจนี้ด้วย ก็ได้รับคำแนะนำอย่างล้นหลามมาก เราจึงตัดสินใจไปพบคุณหมอเฉพาะทางโรคหัวใจ เพื่อตรวจลูกว่า สรุป ลูกเป็นอะไรกันแน่ ต้องรักษาอย่างไรกันต่อไป และอันตรายร้ายแรงแค่ไหน เรามีผลตรวจเลือด ผล ECG (ผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจลูกวันเกิดเหตุไปด้วย)

สรุปว่าลูกเป็น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ SVT คือ หัวใจเต้นผิดจังหวะแบบเต้นเร็วที่หัวใจห้องบน คุณหมอที่รักษาคือคุณหมอปริวัตร เพ็งแก้ว คุณหมอบอกว่า จี้ไฟฟ้าหัวใจ จะหายขาด โรคนี้ด้วยตัวโรคไม่ได้อันตราย แค่ทำให้ผู้ป่วย หมดสติ แต่ระหว่างที่หมดสตินั่นหละ อันตราย แนะนำว่า จี้ไฟฟ้าหัวใจดีกว่า จะได้ไม่ต้องกังวลทั้งลูกและพ่อแม่ ค่ารักษาประมาณ 150,000.- นี่ราคาที่ รพ เอกชนที่พาไปตรวจ คุณหมอบอกว่า รพ.รัฐก็ราคาไม่ต่างจากนี้มากนัก ถ้าประกันที่ทำไว้ไม่ครอบคลุม แนะนำให้ไปรักษาที่ รพ. ตามสิทธิ์ คุณหมอตรวจอยู่ที่ รพ.ราชวิถีด้วย แม่เลยบอกว่างั้นแม่พาลูกไปพบคุณหมอที่ รพ. ราชวิถี แล้วไปรักษาที่นั่นดีกว่า

แม่ตรวจสอบสิทธิ์บัตรทองของลูกจากเว็บไซต์ https://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml และติดต่อที่ สถานพยาบาลที่เข้ารักษาเบื้องต้นจึงได้รู้ว่า ในการไปหาหมอที่ รพ. ตามสิทธิ์ 1 ครั้ง เราก็ต้องมาขอใบส่งตัว 1 ใบ คือต้องมาขอเป็นครั้ง ๆ ไป ทางคลีนิคจึงแนะนำให้เราไปขอใบส่งตัวจาก สาธารณสุขที่ลูกสังกัดอยู่ จะได้ใบส่งตัวที่สามารถใช้ได้นานกว่ามาขอจากทางคลีนิก

ระหว่างนั้นแม่ก็พาลูกไปพบคุณหมอที่ รพ. ราชวิถีด้วยค่ะ คุณหมอบอกว่า ถ้าสามารถมีใบส่งตัวมาเพื่อทำการจี้ไฟฟ้าหัวใจที่ รพ.ราชวิถีได้ ก็สามารถใช้สิทธิ์ตามหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ หรือ สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท รักษาทุกโรคที่ทุกคนเคยได้ยินกันนั่นหละ คุณหมอจะทำใบนัดให้เพื่อมาทำการรักษา ให้แม่เอาใบนัดนี้ไปขอใบส่งตัวมานะ วันมานอน รพ. ต้องมีใบส่งตัวมาด้วย

แม่ไปติดต่อที่สาธารณสุข 15 ลาดพร้าว ที่ทางคลีนิคแจ้งมาว่าต้องมาติดต่อที่นี่ หรือเราสามารถสอบถามได้จากสายด่วน สปสช. เช่นกันนะคะ แม่ก็โทรไปเช็คสิทธิ์กับทางสายด่วนด้วยเช่นกัน ก็ได้รับการแจ้งว่า หน่วยปฐมภูมิของลูก (สถานพยาบาลเริ่มต้นที่ต้องไปรักษา) คือคลินิคและสาธารณสุขที่นี่ แม่ก็ถือใบนัดจี้ไฟฟ้าหัวใจไปขอใบส่งตัว ก็ได้ใบส่งตัวที่มีอายุ 1 ปีมาค่ะ นับจากวันที่มาขอ

พอถึงวันเข้ารับการรักษา แม่จะบอกว่า รพ. ราชวิถี ทำให้แม่ประทับใจในหลาย ๆ อย่างมาก ๆ ถ้ายังจำได้แม่เคยเล่าไว้วันที่ ไปหาคุณหมอปริวัตร เพื่อตรวจที่ราชวิถีครั้งแรก ที่เราไปถึง รพ. กันตั้งแต่ 05.00 เพื่อไปต่อคิว พอประตู โรงพยาบาลเปิดให้เข้า ทุกอย่างถูกจัดการอย่างเป็นระบบมากจริง ๆ ถูกใจการต่อแถวขึ้นลิฟต์ที่หยุดเป็นชั้น ๆ ตามที่กำหนดมาก ๆ เลย

วันที่ลูกต้องไปนอน รพ. ทางพยาบาลห้องสวนหัวใจ โทรมาแจ้งขั้นตอนก่อนวันที่จะต้องไปด้วยนะคะ เราไปถึงกันประมาณ 7 โมงเช้า เข้าไปตามตำแหน่งที่เอกสารระบุเลย ยืนยันสิทธิ์ จากใบส่งตัวเรียบร้อย ลูกรอตรวจเลือด 50 กว่าคิว เห็นตัวเลขคิดว่านานแน่นอน แต่เอาเข้าจริง ๆ ไม่นานเท่าไหร่เลยนะคะ

พอทำเรื่องเข้านอน รพ. ในห้อง CCU ก็ไม่ช้าเลย มีคุณเจ้าหน้าที่มาแจ้งรายละเอียด และมีคนนำทางพาไปจนถึงห้อง CCU ปลาทูต้องนอนอยู่ที่ห้อง CCU ตลอดการรักษาค่ะ ห้องพักดีมาก สะอาดมาก พยาบาลดูแลดีมาก ๆ ลูกไลน์มาบอกเป็นระยะ พี่พยาบาลน่ารัก คอยชวนคุย ช่วยเหลือต่าง ๆ เพราะห้ามเฝ้า สามารถเข้าเยี่ยมได้ตามรอบเท่านั้น คือ 12.00 – 13.00 และ 18.00 – 19.00 เป็นครั้งแรกที่ลูกต้องนอน รพ. คนเดียว แถมไม่ได้ป่วยธรรมดา นอนหอผู้ป่วยหนักโรคหัวใจด้วย

ช่วงทำการสวนจี้ไฟฟ้าหัวใจ ปลาทูบอกว่า คุณหมอใจดีมาก ๆ ชวนคุยตลอด น่ารัก แฟรนลี่ คงจะกลัวว่าหนูจะกลัว พี่พยาบาลห้องสวนหัวใจก็น่ารักมาก ลูกบอกใช้พี่เขาพาหนูไปห้องสวนหัวใจประมาณ 08.30 และเสร็จกลับมาที่ CCU ประมาณ 11.00 อยู่นอนดูอาการ ดูแผลที่เจาะว่าแห้งสนิทดีไหม อีกคืน เช้าวันรุ่งขึ้นก็มารับกลับบ้านได้ค่ะ

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด แสนกว่าบาท ค่าทำหัตถการ ค่าบริการต่าง ๆ อยู่ที่ 97,310 ตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่ายาทั้งหมด แม่พาลูกออกจาก รพ.ก่อนเวลาทำบิลแบบครบถ้วนเสร็จ คุณพยาบาลบอกว่า รวมค่ายาก็จะประมาณแสนกว่าบาทแหลคะแม่ แม่จ่ายแค่ 30.- สำหรับการใช้บัตรทองของผู้ป่วยทีอายุไม่ถึง 60 ปี แค่นั้นเลยค่ะ

ขอบคุณคุณหมอ คุณพยาบาล คุณเจ้าหน้าที่ ของ รพ. ราชวิถีมาก ๆ เลยนะคะ ดูแลดีมาก ๆ แม่กับพ่อรู้สึกได้เลยว่า รพ.รัฐบาล ไม่ได้น่ากลัวเลยนะ แค่ว่าอาจจะต้องมีลำดับขั้นตอนสักหน่อยแค่นั้นเอง การจ่ายค่ารักษาลูกหลักแสน สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ไม่มาก มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเราเลย การใช้สิทธิ์ที่มีก่อนจึงเป็นทางเลือกที่พวกเราเลือก

หวังว่าการเล่าประสบการณ์ครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับบ้านอื่น ๆ นะคะ

ขอบคุณทุกความห่วงใยและกำลังใจอย่างที่สุด

#แม่ยุ้ยThePlatuStory

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เราใช้แค่ดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์เรากี่คน กี่ครั้ง และดูหน้าเว็บไหนบ้าง ถ้าคุณปิดการใช้งาน เราก็จะไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกของเรากี่คน กี่ครั้ง

Save