สอบขับรถ เพื่อใบขับขี่
หลังจากสอบข้อเขียนผ่านกันไปแล้ว ก็ต้องนัดวันเพื่อสอบขับรถ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะเขตที่แม่ยุ้ยไปสอบ คือ ขนส่งจตุจักร ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกเลยว่าที่นี่เป็นที่เดียวที่ใช้ระบบ e-driving ในการสอบ นั่นคือจะมีกล้อง มีเซ็นเซอร์คอยเช็คระยะห่าง ต่าง ๆ ตามกฎเกณฑ์แบบ เป๊ะเวอร์ !!! แต่ก่อน นิด ๆ หน่อยๆ ใช้คนดูก็พอจะหยวน ๆ ให้กันได้บ้าง แต่พอเป็นระบบแบบนี้ หยวนไม่ได้เลยคะ
ตอนนัดวันสอบเจ้าหน้าที่ก็จะลงรอบ 8.00 น.ให้เป็นส่วนมาก เช้าวันสอบก็เตรียมตัวให้พร้อมคะ ไปถึงก่อนเวลาสักหน่อยก็ดี ไปกินข้าวให้อิ่ม เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วก็นั่งรอเรียกคิว จากนั้นก็จะได้ขึ้นไปดูวีดีโอรายละเอียดท่าสอบ ซึ่งท่าสอบมีทั้งหมด 3 ท่า คือ เดินหน้าตรง ถอยหลังตรง , จอดเทียบฟุตบาท และถอยเข้าจอดช่องจอดด้านซ้าย และจากสถิติแล้ว ท่าที่สอบตกกันเยอะสุดคือ “ท่าจอดเทียบฟุตบาท”
สอบครั้งที่ 1 : ไม่ผ่านคะ ตก 2 ท่าเลย ท่าเทียบฟุตบาท ต้องระยะห่าง 25 ซม. ด้านข้างของขอบฟุตบาทจะมีระยะที่มีแถบสีเหลืองไว้ให้ คือล้อต้องทับแถบสีเหลืองทั้งล้อหน้าและล้อหลัง และหยุดในระยะที่กำหนดคือ ล้อต้องเหยียบเส้นขาวเล็ก แต่หน้ารถต้องไม่เกินเส้นขาวใหญ่ และท่าถอยเข้าจอดที่ไม่ผ่านเพราะ ระยะห่างจากฟุตบาทก็ต้องทับเส้นแถบเหลืองเช่นกันคือจอดแล้วต้องไม่ห่างจากฟุตบาท 25 ซม.เหมือนกันเลย
ก็ไม่อยากจะบอกว่า ตอนถอยเข้าจอด แม่ยุ้ยใช้เกียร์ถอยหลัง 1 เกียร์ เข้าจอดได้ในช่องเลย จอดเสร็จ “นั่งดีใจ 5 วินาที” ระบบประมวลผล แหกปากดังลั่นว่า “ไม่ผ่านคะ” ตอนนั้นก็ยังงง ว่าทำไม่ผ่านหละ ก็ถอยได้แล้วนะ แล้วเค้าให้ใช้ 7 เกียร์ทั้งหมดในการเข้าและออก ก็ไม่เกินนิหว่า พอไปรับผลถึงได้รู้ว่า ก็จอดห่างฟุตบาทเกิน 25 ซม.นินา แต่จะบอกว่า ก็ยังดีใจอยู่ดีที่ ถอยเข้าไปจอดได้ (ซ้อมหน้าบ้านอยู่หลายตลบ)
หลังจากการสอบคร้้งแรกก็ได้คำแนะนำจากเพื่อน ๆ และคุณแม่ในเพจที่สอบมาก่อนว่า ให้ปรับ กระจกด้านซ้ายให้กดต่ำสุดจนเห็นล้อรถจะได้กะระยะเทียบฟุตบาทได้ แต่เวลาซ้อมเนี้ย เป๊ะเวอร์อ่ะ ก็ซ้อมก่อนไปสอบนะ
สอบครั้งที่ 2 : สอบผ่านท่าถอยเข้าจอดแล้วเรียบร้อย แต่ก็ยังไม่ผ่านท่าเทียบฟุตบาทอยู่ดี เหตุผลคือ มัวแต่พะวงกับกระจกซ้ายที่คอยดูเส้นเหลือง แล้วมันก็น่าจี๊ดตรงที่ ล้อหลังทับเส้นเหลือง แล้วก็สบายใจมากมาย พอจอด ระบบก็ยังแหกปากว่า “ไม่ผ่านคะ” เราก็ อ้าว ไรวะ
นี่คะเหตุผล ล้อหลังทับเส้นแต่ล้อหน้ากำลังเบนออกคะ ขำซะน้ำตาจะร่วง เอาวะ !!! สอบอีกรอบก็ได้ ไม่เป็นไร ทำใจได้แล้ว สอบกันจนกว่าจะผ่านนี่หละ มีเวลา 90 วันนับจากวันที่มายื่นคำร้อง ถ้าสอบไม่ผ่านภายใน 90 วันต้องย้อนกลับไปสอบข้อเขียนใหม่ ดูซิ จะผ่านไหม
สำหรับท่าถอยเข้าจอด ใครที่ไปเรียนขับรถมา บอกได้คำเดียวว่า “ทำตามที่ครูบอกให้เป๊ะ แล้วคุณจะสอบผ่าน” ค่อย ๆ มองทีละจุดตามที่เค้าสอน มันจะถอยลงล็อคพอดี ทีแรกที่ยุ้ยไม่ได้ทำตามเพราะคิดว่า ระยะรถเรากับรถครูต่างกัน สรุป เอาแบบเดียวกันเลย ผ่านฉลุย !!!
สอบครั้งที่ 3 : รอบนี้บอกเลย ไปแบบ ไปงั้น ๆ เพราะเริ่มหายตื่นเต้น แต่เป็นอารมณ์แบบว่า เออได้ก็ได้ ไม่ได้ก็สอบใหม่ นัดรอบใหม่วันไหนดีนะเนี่ย แล้วระหว่างสอบ คิดอย่างเดียวเลยคะ ฉันจะขับตามความรู้สึกฉันแระ ไม่ห่วงกระจก ไม่ห่วงเส้นเหลือง ดูแค่พอรู้ แล้วฉันจะขับ ช้า ช้า ช้า ให้มากที่สุดเพราะ มาเพื่อสอบท่าเดียว จะได้ใช้เวลาให้คุ้มค่า สรุปว่ารอบนี้ ความช้า ช้า ช้า ได้ผลคะ ค่อย ๆ ไหล ๆ ๆ ๆ จนสำเร็จ ระบบแหกปากบอก “ผ่านคะ”
ได้จ่ายเงิน 205 บาทค่าใบขับขี่เสียทีหละทีนี้ .. แล้วหลังจากนี้ ซิจะยากกว่าสอบตรงที่ต้องกลับไป ขับให้ได้ในชีวิตจริงนี่หละ ถ้าหลายคนอ่านมาตั้งแต่ต้น คงรู้แล้วว่า “การขับรถคือสิ่งที่แม่ยุ้ยกลัวที่สุด” เคยคิดขนาดที่ว่า ชีวิตนี้ ฉันคงทำเรื่องนี้ไม่ได้ แต่แล้วการเรียนครั้งที่ 3 กับความคิดที่ว่า ฉันต้องลองให้สุด มันต้องได้ซิน่า แม่ยุ้ยเดินทางมาจนถึงจุดที่ มีใบขับขี่แล้ว และเราต้องรวบรวมความกล้า ฝึกต่อไปจนขับขึ้นถนนให้จงได้
แล้วการขับรถออกจากหมู่บ้านก็ได้เริ่มต้นขึ้น ขับในซอยไปซุปเปอร์ท้ายซอย ขับไปได้ ยังขับกลับไม่ได้ แล้วก็ลองขึ้นถนน ไปส่งลูกรอบแรก
เมื่อเช้าวันอาทิตย์ ขับรถไปส่งปลาทูไปเรียนครูมด เป็นครั้งแรกที่แม่ขับรถออกจากซอยบ้าน
ปลาทู : แม่จะขับไปจริง ๆ เหรอ ไหวเหรอ
แม่ : ไหวซิ นี่ยังเช้าอยู่เลย ยังไม่ค่อยมีรถหรอก ไปได้แหละ
ปลาทู : หนูปวดหัวแล้วอ่ะแม่ หนูเครียด
แม่ : ยังไม่ได้ออกรถเลย ปวดหัวแล้ว ไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอกน่า
พ่อ : ไม่น่ากลัวหรอกลูกค่อย ๆ ไป
ออกจากหมู่บ้าน แม่เกือบสอยมอไซต์ 1 หน่วย
ก่อนออกจากซอยบ้าน เพื่อเข้าถนน แม่ก็ดูให้ชัวร์ก่อนไง พอดีพี่คันหลังเค้ารีบ เลยบีบแตรให้หนึ่งตลบ
ก่อนเลี้ยงเข้าซอยบ้านครูมด แม่ตื่นเต้น ลืมเปลี่ยนเลน จอดเปิดไฟ เลี้ยงซ้าย รออยู่หน้าแยก รถหลังบีบแตรทักทายนิดนึง
แต่แม่ก็ขับจนถึงบ้านครูมดนะ พอรถจอดปุ๊ป
ปลาทู : แม่เปิดรถให้หนูลงหน่อยซิ หนูไม่ไหวแล้ว
แม่ : (ขำกร๊ากเลย) ได้ ๆ รอแป๊ปนะ
ลงไปเจอครูมด ก็คุยกันว่า แม่ยุ้ยขับมาแน่ ๆ ดูจากวิธีการถอยจอดแล้ว
ปลาทู : ไม่ไหว ไม่ไหว หนูไม่ไหว แม่กอดปลอบใจหนูหน่อยนะ แต่แม่ขับในหมู่บ้าน สะดวกแล้วนะ แต่นอกหมู่บ้านยังไม่ไหวนะแม่
ขำก็ขำ .. ต้องคุยกันให้เข้าใจก็ต้องคุย ว่าทุกคนเริ่มต้นฝึกก็เป็นแบบนี้หละลูกให้โอกาสแม่นิดนึงนะ ถ้าไม่ให้แม่ขับ แม่ก็ขับไม่ได้สักกะทีนะ แล้วเราก็ตกลงกันว่า ต่อไปนี้ เช้าวันอาทิตย์ แม่จะเป็นคนขับไปส่งปลาทูทุกครั้ง โดยมีพ่อนั่งอยู่ข้าง ๆ จนกว่าแม่จะขับได้ “สะดวก” เด็กเค้าใช้คำนี้ แฮะ ๆ
แต่พอโพสเรื่องนี้ไปทำให้ได้รู้ว่า “เกือบทุกคนมีอาการแบบนี้หมดเลยในช่วงแรกที่หัดขับ” จะบอกว่า กำลังใจดีขึ้นเยอะมากเลยคะ แต่วันนั้นลงจากรถแล้ว เปลี้ยไปทั้งตัวเลย ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แขนขาไม่มีแรง น่าจะเกิดจากความเกร็งไปหมดทั้งตัว แต่ไม่เป็นไร ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขับบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชินไปเอง คนขับจะพยายามชินนะคะ เด๊๋ยวจะไปบอกคนนั่งด้วย
แล้วมารอดูกันว่า เมื่อไหร่แม่ยุ้ยจะขับไปส่งปลาทูที่โรงเรียนได้หนอ ??? แต่รับรองว่า ต้องได้แน่ ๆ อยู่ที่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเอง