เราไม่จำเป็นต้อง “โต้ตอบ” ทุกสิ่งที่ถูกกระทบก็ได้นะลูก
แม่ยุ้ยสอนปลาทูอยู่เสมอว่า ไม่จำเป็นว่า เราโดนอะไรมา เราจะต้องทำคืนคนอื่นแบบที่เราโดนมานะลูกนะ และเรื่องนี้ ในบ้านเราเองก็ถือเป็นสิ่งที่ปฎิบัติกันตามปกติ แม่ยุ้ยเองก็ทำแบบนั้น ลูกก็คงเห็นอยู่เป็นประจำ
➟ เวลาเราโดนเพื่อนแกล้ง เราก็ไม่เห็นต้องแกล้งเพื่อนกลับเลย เรายังไม่ชอบเลยเวลาถูกแกล้งใช่ไหมหละ ?
➟ เวลาเราโดนเพื่อนโกง เราก็ไม่จำเป็นต้องไปโกงเขาคืน เรารู้แล้วว่ามันไม่ดี เขาทำไม่ดี เราจะไปทำไม่ดีตามเขาทำไมหละลูก
➟ เราโดนเพื่อนว่า ด้วยคำพูดไม่ดี เราก็ไม่เห็นต้องไปคิดหาคำพูดไม่ดี มาว่าเขากลับเลยลูก พูดไม่ดีออกไป มันก็ไม่ดีกับตัวเรา
หลายครั้ง ลูกก็ไม่เข้าใจนะ .. มีเรื่องราวมาถามอยู่เสมอ หรือแม้แต่เรื่องที่ครอบครัวเราเจอ ลูกก็สงสัย แต่แม่ก็ใช้แนวคิดนี้ อธิบายกลับไป เพราะเราก็ใช้ชีวิตตามแนวคิดแบบนี้
จนเมื่อไม่กี่วันนี้ ลูกกลับมาเล่าให้พ่อฟังว่า เพื่อนปาหินมาโดนหนู หนูรู้นะว่าเพื่อนไม่ได้ตั้งใจ แต่หนูเจ็บ เลือดออกเลย หนูโกรธ หนูหยิบหินที่เพื่อนปามา กำไว้แน่นเลย ในใจก็คิดอยากจะปาใส่คืนกลับไป แต่คิดอีกที ถ้าหนูปาไปโดนเพื่อน เพื่อนก็เจ็บ เขาไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวจะกลายเป็น ปากันไป ปากันมา หนูเลยทิ้งหินแล้วพ่อก็มารับพอดี
เรื่องราวนี้ .. บอกได้ชัดเจนว่า สิ่งที่แม่สอนไป แม่ทำให้หนูเห็น มันซึบซาบเข้าไปในตัวหนูได้เอง แม่ดีใจมากที่ลูกแม่เข้าใจถึงสิ่งที่แม่พูด
การได้รับสิ่งไม่ดีมา ไม่จำเป็นต้องยิบหยื่นสิ่งไม่ดีนั้นกลับคืนไป หรือส่งต่อให้คนอื่น สุดท้ายมันคือตัวเรานี่หละ ทิ้งมันซะ จบมันซะทีตัวเรา
แต่ก่อนเพื่อนว่า ก็กลับมาเสียใจ หน้าคว่ำ หน้างอ เดี๋ยวนี้ มักจะกลับมาเล่าว่า หนูก็เดินหนี อยากจะว่าว่าไป หนูไม่ได้เป็นแบบนั้น หนูบอกแล้ว ถ้าไม่หยุดก็แล้วแต่
ค่อย ๆ สร้างภูมิต้านทานไปนะลูกนะ บนโลกนี้มีคนหลายแบบ อย่ารู้สึกว่า “ต้องเอาคืนให้สาสม หรือหนักกว่า” เพราะมันจะทำให้เราทำเรื่องไม่ดีแบบทีเขาทำ หรือเลวในแบบที่เขาเลว เพียงเพราะ “อยากสะใจ”
เผื่อบ้านไหนจะลองเอาไปสอนเด็ก ๆ กันนะคะ
#แม่ยุ้ยThePlatuStory