ผลสอบลูก บอกอะไรคุณบ้าง
เมื่อวานเย็นปลาทูยื่นกระดาษสรุปผลสอบให้แม่
แม่ก็แกะมาดูแล้วก็วางไว้ เจ้าตัวก็ตื่นเต้น
ถามว่าหนูสอบได้กี่คะแนน
แม่เลยตอบไปว่า ได้กี่คะแนนไม่สำคัญเท่า
ลูกแม่ลอกเพื่อนหรือเปล่า ?
ลูกแม่ลุกเดินในห้องสอบไหม ?
ลูกแม่คุยกับเพื่อนในห้องสอบรึเปล่าหนอ ?
และสุดท้าย ลูกแม่ตั้งใจทำข้อสอบมากไหม ?
ปลาทูรีบรายงานเลยว่า หนูไมลอกเพื่อนเลย ไม่คุย ไม่เดินด้วย
และหนูก็ตั้งใจทำมากเลยนะแม่
นั่นหละจ๊ะ .. ลูกสอบผ่านแล้วสำหรับแม่
หลายบ้าน เมื่อได้รับกระดาษแผ่นนี้แล้ว
ลูกโดนพ่อแม่ถล่มอารมณ์ใส่
ทำไมทำได้แค่นี้ ?
ทำไมไม่ได้มากกว่านี้ ?
ที่สอนไปทำไมไม่จำ
ผลออกมาแบบนี้ แล้วจะว่ายังไง ?
เลิกเรียนไปเลยดีไหม ?
เรียนทำไมพิเศษ เรียนแล้วทำได้แค่เนี้ย ?
นึกถึงใจลูกสักนิดไหมคะ !!! กับสิ่งที่พ่นใส่ลูกออกไป
มันไม่ใช่แค่คำพูด ที่มาจากความ ผิดหวัง
ความคาดหวังในใจคนเป็นพ่อแม่ มันเยอะเกินไหมหรือเปล่านะ
แล้วลงทุกอย่างที่เด็ก 7 ขวบอย่างไร้การยั้งคิด
ลูกคงไม่เข้าใจว่า ทำไมกระดาษใบนี้ ส่งถึงมือแม่พ่อแล้วต้องโดนดุ
เด็กอาจจะเกลียดกระดาษแผ่นนี้ไปเลยก็ได้นะคะ
คราวหน้าถ้าไม่ได้ผลสอบลูก หรือลูกแก้ผลสอบเองในอนาคต
ก็ขอให้รู้ไว้นะว่า “กระดาษแผ่นนี้ทำให้โดนดุ” ทำอย่างไรไงไม่ให้โดนดุ
เด็กก็คงคิดแค่ว่า งั้นก็ไม่ให้ หรือไม่ก็แก้ตัวเลขคะแนนซะก็ได้มั้ง
แม่ยุ้ยมีเพื่อนที่แก้ไขผลสอบก่อนส่งพ่อแม่นะ
แบบที่ไม่ให้เลยก็มีนะ เพราะเหตุผลเดียวกัน ให้ก็โดนว่า ก็ไม่อยากโดนว่า
ลองเปลี่ยนมุมมองกันเสียใหม่นะคะ
ถ้าคะแนนมันไม่ดี ไม่เป็นที่น่าพอใจ
ย้อนกลับมาหาตัวเองก่อนที่จะพุ่งเข้าไปโทษลูก
เราใส่ใจลูกมากพอหรือยัง เราเคยเปิดสมุดการบ้านลูกดูไหม?
เคยถามลูกสักครั้งไหมว่า เข้าใจบ้างหรือเปล่าที่เรียนมาแต่ละวัน
นั่งคุยกับลูกซิ มีอะไรไม่เข้าใจ ถามแม่ได้นะ ถามพ่อก็ได้
ไม่ใช่ เรียนไม่ดี ก็โยนให้เด็กรับทั้งหมด
ส่งลูกไปเรียนพิเศษ ติวเพิ่ม ห้ามเล่นโน้น ห้ามเล่นนี่ เพราะเรียนไม่ดี
เด็กรับผลทุกอย่างคนเดียวเลยคะ พ่อแม่ไม่ต้องรับผลอะไรเลย
แล้วก็ฝากความหวังไว้กับ โรงเรียน ครู ครูพิเศษ
ไม่เอาตัวเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาลูกเลยสักนิด
คิดแบบนี้ มันใช่หรือเปล่านะ !!!!
ผลสอบลูก มันก็สะท้อนถึงความใส่ใจ ของพ่อแม่นั่นหละคะ
บางครั้งยุคนี้อาจจะต้องเปิดใจเผื่อว่า
“เนื้อหามันยากเกินไปสำหรับวัยลูก” ก็มีนะต้องเผื่อเรื่องนี้ด้วย
หมดยุคแล้วคะที่คะแนนน้อยต้องไปเลี้ยงควาย
สอบตกต้องไปทำนา เลิกต่อว่าต่อขานลูกกันเสียที
สำรวจตัวเองกันบ้างนะคะ ในฐานะที่เราเป็นพ่อเป็นแม่
เราควรจะต้องรับผิดชอบอะไรมากกว่าแค่ส่งลูกไปเรียนพิเศษนะ
เด็กพร้อมจะเรียนรู้ได้เมื่อ “ใจพร้อม”
คุณรู้หรือยังว่า “ใจลูกคุณพร้อมแค่ไหน ?”
เรื่องนี้เขียนตั้งแต่ ด.ญ.ปลาทูอยู่ ป.1
#แม่ยุ้ยThePlatuStory