ดูแลเด็กป่วย
สรุปผลว่าปลาทูป่วยเป็น “หลอดลมอักเสบ” นะคะ
มีเสมหะครืดคราดเวลาหายใจ มีอยู่ในปอดแล้วบ้างนิดหน่อย
หมอให้ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ไอละลายเสมหะมาทาน
เด็กดีใจเหลือแสน ได้กินยาแล้ว (ซะงั้น)
หมอบอกว่า จมูกบวมมากจนเกือบปิดเลย
เวลาล้างจมูกจึงทำให้น้ำมูกออกมาไม่หมด แล้วไหลลงคอ
หมอถามว่า มีกินน้ำหรือว่าอะไรร่วมกับเพื่อนไหมคะปลาทู
ปลาทูบอกว่า ไม่คะ ..
หมอถามอีกว่า ไปว่ายน้ำมารึเปล่าคะ
บางทีมีคนป่วยไปใช้สระ ก็มีโอกาสติดเชื้อมาได้
แล้วเชื้อก็จะเข้าทางจมูกมาก่อน บวกกับร่างกายอ่อนแอพอดี
จึงแจ็คพ็อตโป๊ะแตกกันไปตามระเบียบ
แต่ถือว่า .. อาการไม่หนักหนามากมายนะคะ
สิ่งที่จะต้องทำคือ หยดยาให้จมูกยุบบวม แล้วล้างจมูก
ดื่มน้ำให้มาก ๆ วันละสัก 2 ลิตร (อันนี้แม่ยุ้ยจัดการได้)
และที่สำคัญ นอนพักผ่อนเยอะ ๆ
เด็กบ้านนี้ไม่ยอมนอนกลางวัน ก็อาจจะยากหน่อย
ที่เล่ามาเสียยืดยาวเพื่อจะบอกว่า
การพาลูกลงสระ เป็นอีกเรื่องที่แม่ยุ้ยต้องรอบคอบมากกว่านี้
ด.ญ.ปลาทู เรียนว่ายน้ำ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละชั่วโมงได้
เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เรียน อนุบาล 3 คะ ไม่เคยป่วยแบบนี้เลย
แม่ว่า ด้วยสระว่ายน้ำที่ โรงเรียน ค่อนข้างโอเคมาก
เป็นสระน้ำเกลือ และการดูแลรักษาความสะอาดค่อนข้างดี
ช่วงวันแม่ แม่ยุ้ยพาไปว่ายน้ำแถวบ้าน
ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก สระคลอลีนปกติ คนเยอะแยะ
ดันลืมคิดไปว่า ช่วงนี้คนป่วยเยอะ แล้วคนมาใช้บริการเยอะ
สระอาจจะดูไม่สะอาดนัก
นี่หละคะ .. สิ่งที่แม่พลาดไปหน่อย
แต่ตอนไปว่ายน้ำที่โรงแรมรอบล่าสุด ก็สระคลอลีน ก็ไม่ป่วยนะ
น่าจะเป็นเรื่อง ความสะอาดและคนมาใช้บริการมากมาย
สวนน้ำในห้างนี่ไม่ต้องถามนะคะ ยุ้ยไม่เคยยอมให้เล่นแน่นอน
ดังนั้น .. ต่อไปนี้ สระว่ายน้ำ อาจจะต้องพิจารณากันให้ดีก่อนลง
เลยนำข้อมูลมาฝากคุณพ่อ คุณแม่นะคะ
สำคัญที่สุดคือ ดูแลเด็กของเราไว้ให้แข็งแรง
เชื้อโรคตัวไหน จะได้แทะกัดลูกเราไม่เข้านะจ๊ะ
