มนุษย์แม่รำพึง

ฟังก่อนที่จะตัดสิน


การที่ลูกเดินเข้ามาหา แล้วเอ่ยปากบอกสิ่งต่าง ๆ กับเรา ผู้ซึ่งเป็นพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่ดี หรือไม่ดีก็ตาม การที่ลูกกล้าที่จะเดินเข้ามาหาเรานั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะอย่างน้อย ลูกก็เรียนรู้แล้วว่า เขาพูดคุยกับเราได้

แต่ก็มีหลายต่อหลายครั้งที่เราไม่ฟังลูกจนจบ ไม่ฟังลูกให้หมด แค่เพียงบางประโยคเท่านั้นที่เราฟัง จากนั้นก็เราถาโถมอารมณ์ใส่เด็ก เพียงเพราะเห็นผลของความเสียหายตรงหน้า หรือผลลัพธ์ที่ไม่ได้ดั่งใจเรา ซึ่งบางครั้งผลที่เห็น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราเข้าใจก็ได้นะคะ ลูกอาจจะไม่ได้ทำ ลูกอาจจะไม่ได้ตั้งใจ และความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้เสมอกับทุกชีวิต

แล้วทำไมวันที่ลูกกล้าเดินเข้ามาหาเรา เราไม่ฟังเขาให้จบ เราไม่ฟังคำอธิบายขอเขาว่าทำไมเขาพลาด เขาทำผิด แม่ยุ้ยเองก็เคยเป็นหนึ่งคนที่ “ควบคุมอารมณ์” ของตัวเองไม่ได้ ดุลูก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ฟังทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ ดุลูกทั้ง ๆที่ ยังไม่ได้ทำความเข้าใจในมุมของลูกเลยสักนิดเดียว โกรธลูกทั้ง ๆที่เราเป็นแม่ ซึ่งควรจะเป็นผู้ที่เขาใจเขาที่สุดในโลกไม่ใช่เหรอ

ถ้าเรายังไม่เปลี่ยนท่าทีแบบนี้ วันนึง ลูกจะไม่กล้าเข้ามาหาเราอีก ไม่ว่ามีอะไรหนักหนาแค่ไหน คนที่เขาจะเข้าหาคือคนที่พร้อมจะรับฟังและเข้าใจเขา เราหละใช่หรือเปล่า ? แล้วถ้าพ่อแม่ไม่ใช่ คนที่ใช่คงเป็นแค่เพื่อน เราอยากให้เป็นแบบนั้นไหมหละคะ ? ถามตัวเองกันให้ดี ๆ นะ แล้วหวนกลับมาคิดเสียใหม่อีกหน

แม่ยุ้ยได้คิดแล้วหละบอกเลย .. เพราะเวลาที่เราถูกเข้าใจผิด เราถูกมองไม่ดี ทั้ง ๆที่เราไม่ได้ตั้งใจจะทำไม่ดี เราถูกมองว่าแย่ ทั้ง ๆที่เราทำเต็มที่แล้ว และสารพัดคำต่อว่า ตำหนิ คำเหล่านั้น มันบาดลึกเข้าไปในหัวใจแค่ไหน ?  คุณคิดว่า ผู้ใหญ่เรายังรู้สึกได้ แล้วเด็กไม่มีหัวใจเหรอคะ ???  และที่สำคัญ เด็กคนนั้น คือลูกของเราเอง ลูกที่เราบอกว่า เรารักเขามาก

มันยากอยู่นะที่จะควบคุมตัวเอง กลั้นกรองคำพูดและสะกดอารมณ์กับเด็ก ยากจริง บอกเลย แต่..ไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้ อยู่ที่เราต่างหากว่า เราเห็นความสำคัญ และคิดว่า เราจำเป็นต้องทำหรือไม่ ต่างหาก

เมื่อวานแม่ยุ้ยปลอบปลาทู หลังจากโดนพ่อดุ พร้อมกับคุยกับลูกที่เสียใจกับการถูกดุในสิ่งที่เขาไม่ได้ตั้งใจทำ ไปสั้น ๆว่า หนูจำความรู้สึกนี้ไว้นะลูก ก่อนที่หนูจะต่อว่าใคร หรือโกรธใคร เสียงดังใส่ใคร พูดจาไม่ดีใส่ใคร หนูจำไว้นะว่าถ้าเขาคนนั้นไม่ได้ตั้งใจทำ หรือไม่ได้เป็นคนทำ แต่หนูไม่ฟังเขาก่อน เขาก็รู้สึกเหมือนหนูตอนนี้เลย

ที่บอกแบบนี้ได้ ไม่ใช่ว่า แม่ยุ้ยไม่เคยดุลูกแบบขาดสติ เคยคะ แต่ตอนนี้ “พยายามที่จะทำให้น้อยลง” เพราะย้อนกลับมาคิดถึงตัวเองว่าถ้าเราโดนแบบนี้บ้าง เราคงเสียใจ เลยตั้งใจจะพูดคุยกับลูกก่อนที่จะ ตัดสินคดีความให้มากขึ้น

ยังไม่ช้าไปนะคะ ที่เราจะมาเริ่มต้น “เข้าใจหัวใจลูก” กันใหม่อีกครั้ง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เราใช้แค่ดูว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์เรากี่คน กี่ครั้ง และดูหน้าเว็บไหนบ้าง ถ้าคุณปิดการใช้งาน เราก็จะไม่เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกของเรากี่คน กี่ครั้ง

Save